สารจากแสนสิริ

ปี 2566 ถือเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทายหลายประการทั้งความผันผวนของเศรษฐกิจและตลาดทุนทั่วโลก รวมถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง แม้เศรษฐกิจในประเทศจะเติบโตขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก แต่ในช่วงครึ่งปีหลังกลับขยายตัวได้อย่างจำกัดโดยมีสาเหตุมาจากการจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้า ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวไปชั่วขณะ ประกอบกับภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังไม่กลับมาในระดับที่คาดการณ์ไว้

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางความท้าทายรอบด้าน แสนสิริยังคงยืนหยัดสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยไม่หยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานของแสนสิริ ผนวกกับการออกแบบโครงการตามแนวคิด “YOU Are Made for Life ชีวิตคุณ คือ แรงบันดาลใจของเรา” ที่พยายามคำนึงถึงความหลากหลายของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของทุกๆ คนในทุกๆ ด้าน และการดูแลบริการหลังการขายอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรโดยบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จากความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ ประกอบกับความเชื่อมั่นและการยอมรับจากลูกค้าในแบรนด์ของเรา ส่งผลให้แสนสิริสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่โดดเด่น โดยมีรายได้รวมและกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยรายได้รวม จำนวน 39,082 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากปีก่อน และกำไรสุทธิ จำนวน 6,060 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 42 จากปีก่อน

จากประสบการณ์และความสำเร็จตลอดเกือบ 4 ทศวรรษที่ผ่านมา ส่งผลให้แสนสิริได้รับการประเมินให้เป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นอันดับ 1 ประจำปี 2566 จัดทำโดยบารามีซี่ กรุ๊ป (Baramizi Group) ร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้จัดทำขึ้นเป็นครั้งแรก อีกทั้ง ยังได้รับรางวัลสุดยอดแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ทรงพลังแห่งปี 2566 (The Most Powerful Brand in Real Estate 2023) จาก TERRA BKK ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นแบรนด์อันดับ 1 ที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อ จากผลสำรวจพบว่าแสนสิริมีความโดดเด่นในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง มีการปรับตัวตลอดเวลา และเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อมั่นในคุณภาพ โดยแสนสิริเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งเดียวที่ได้รับรางวัลดังกล่าวเป็นครั้งที่ 5

ความมุ่งมั่นและเจตนาอันแน่วแน่ของบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นการดูแลสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการบริหารงานตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ภายใต้กรอบ ESG (Environmental, Social, Governance) ล้วนแต่เป็นเครื่องพิสูจน์ที่ทำให้บริษัทฯ ได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2566 ที่ระดับ “AA” หรือชื่อเดิม Thailand Sustainability Investment (THSI) ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นอกจากนี้ แสนสิริยังได้รับผลการประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีในระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย ตลอดจนได้รับการต่ออายุการรับรองการเป็นสมาชิกในโครงการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (CAC) โดยได้รับการรับรองเป็นสมาชิกตั้งแต่ปี 2560 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

สุดท้ายนี้ ในฐานะตัวแทนของบริษัทฯ ผมขอถือโอกาสนี้ขอบคุณผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนแสนสิริด้วยดีเสมอมา ทั้งจากลูกค้าทุกท่านที่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของแสนสิริ ผู้ถือหุ้นที่ให้ความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจ พันธมิตรทางธุรกิจ ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินต่าง ๆ รวมถึงสื่อมวลชนทุกท่านที่ให้การสนับสนุนแสนสิริมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งทีมผู้บริหารและพนักงานทุกคนสำหรับความทุ่มเทและความอดทนในการทำงานเพื่อร่วมกันผลักดันให้ บริษัทฯ เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ผมขอให้คำมั่นว่าเราจะมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตบนพื้นฐานของความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส และการกำกับดูแลกิจการที่ดี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกท่านในปีต่อ ๆ ไป