ข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์
07 ธันวาคม 2543
แถลงข่าวความสำเร็จในการปรับโครงสร้างหนี้
ที่ สส./ 0484 /2543
วันที่ 7 ธันวาคม 2543
เรื่อง บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวความสำเร็จในการปรับโครงสร้างหนี้
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามที่วันนี้ได้ปรากฏข่าวในหนังสือพิมพ์ฉบับต่าง ๆ เกี่ยวกับการแถลงข่าวความสำเร็จในการปรับโครงสร้าง
หนี้ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) นั้น บริษัทขอสรุปเนื้อหาโดยสังเขปดังต่อไปนี้
บริษัทประสบความสำเร็จในการปรับโครงสร้างหนี้มูลค่าประมาณ 3,600 ล้านบาทอย่างสมบูรณ์ หลังการ
เจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคาร ไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเจ้าหนี้สถาบันการเงินรายสุดท้ายได้สำเร็จเมื่อ
เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ปลอดหนี้รายแรกของไทย
ทั้งนี้ บริษัทสามารถปรับโครงสร้างหนี้กับบริษัท บางกอก แคปปิตอล อัลไลน์แอนซ์ จำกัด ("BCA") และ
ธนาคาร ไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) ได้เป็นผลสำเร็จเมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ด้วยการโอนสินทรัพย์ชำระหนี้
แปลงหนี้เป็นทุน และชำระหนี้เป็นเงินสด โดยมีมูลค่าหนี้ประมาณ 617 ล้านบาท
เมื่อปลายปี 2540 บริษัทมีมูลหนี้ประมาณ 3,600 ล้านบาท และได้เริ่มดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้อย่าง
จริงจังนับตั้งแต่ต้นปี 2541 ด้วยการริเริ่มโครงการลดราคาของโครงการอาคารชุด 4 แห่ง ได้แก่ บ้านปิยะสาธร บ้าน
แสนสราญ บ้านพฤกษาสิริ 1 และบ้านพฤกษาสิริ 2 ประมาณ 35-60% เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ จากนั้นก็ได้ดำเนินการ
เจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้สถาบันการเงินทั้ง 16 แห่ง อาทิ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคาร
ดีบีเอสไทยทนุ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ภัทรธนกิจ บริษัทเงินทุน ทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย บรรษัท
บริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน บางกอกแคบปิตอล อัลไลน์แอนซ์ ธนาคารไทยธนาคาร เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่บริษัท
ใช้วิธีโอนทรัพย์สินชำระหนี้ แปลงหนี้เป็นทุนและชำระเป็นเงินสด โดยในปี 2541 บริษัทประสบความสำเร็จในการปรับ
โครงสร้างหนี้ประมาณ 1,942 ล้านบาท หรือร้อยละ 54 ของมูลหนี้ทั้งหมด ในปี 2542 ปรับโครงสร้างหนี้ได้ประมาณ
880 ล้านบาท หรือร้อยละ 24 และในปี 2543 ประมาณ 796 ล้านบาท หรือร้อยละ 22
/อย่างไรก็ตาม......
ที่ สส./ 0484 /2543
หน้า 2 ของจำนวน 2 หน้า
อย่างไรก็ตาม การเข้ามาร่วมทุนของสตาร์วูด แคปปิตอล กรุ๊ป เมื่อเดือนมีนาคม 2542 นับเป็นส่วนหนึ่งของ
ความสำเร็จในการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูฐานะทางการเงินของบริษัท ณ ปัจจุบันสตาร์วูด แคปปิตอล กรุ๊ป ได้ถือ
หุ้นในบริษัทในสัดส่วนร้อยละ 6.43
ณ วันที่ 31 กันยายน 2543 แสนสิริมีสินทรัพย์รวมประมาณ 1,900 ล้านบาท และมีรายได้รวมประมาณ 84
ล้านบาท ทั้งนี้ รายได้ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากค่าธรรมเนียมในธุรกิจการบริการบริหารอาคาร ซึ่งสอดคล้องกับ
กลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัทที่จะเร่งสร้างรายได้รูปแบบอื่นๆ เข้ามาทดแทนการพัฒนาโครงการใหม่ในช่วงที่ธุรกิจอสังหา
ริมทรัพย์และเศรษฐกิจอยู่ในภาวะถดถอย โดยบริษัทได้ขยายการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพและสามารถเอื้อประโยชน์
ต่อธุรกิจหลักของบริษัทได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบัน แสนสิริ ได้ขยายตลาดสู่ตลาดบ้านเดี่ยว และอพาร์ตเม้นท์ให้เช่าจากเดิมที่จับเฉพาะตลาดอาคารชุด
ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการนาราสิริ ซอยวัชรพล เป็นโครงการบ้านเดี่ยวโครงการแรกและยังเป็นโครงการพัฒนาอสังหา
ริมทรัพย์โครงการแรกของบริษัทในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันบริษัทยังได้มุ่งเน้นที่ธุรกิจบริหารอาคาร ซึ่งอยู่ภาย
ใต้บริษัทในเครือ คือ บริษัท แสนสิริ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส จำกัด ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ขยายการบริการสู่ Brokerage Service
โดยมีเว็บไซต์ Thailandpropertyonline.com เป็นช่องทางในการให้บริการ
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ลงทุนในบริษัท พอยท์ เอเชีย แอ็คเซ็ส จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต
ความเร็วสูงโดยมีเป้าหมายที่จะให้บริการในตลาดที่อยู่อาศัย พร้อมกันนี้ยังได้ลงทุนในกองทุนรวมสตาร์วูด ไทยแลนด์
พร็อพเพอร์ตี้ 1 ในสัดส่วนร้อยละ 25
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายเศรษฐา ทวีสิน)
กรรมการผู้จัดการ