SET Announcements
18 May 1999
งบการเงินประจำรายไตรมาสที่ 1/2542
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2542 บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อ เป็น บริษัท
แสนสิริ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส จำกัด
หมายเหตุ 10 - เงินกู้ยืมสถาบันการเงิน
บริษัทใหญ่
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2542 บริษัทในฐานะลูกหนี้ และบริษัทย่อยแห่งหนึ่งในฐานะผู้ค้ำประกันได้ทำบันทึกข้อตกลงปรับ
ปรุงโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินแห่งหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องการชำระเงินกู้ยืมและดอกเบี้ยค้างจ่ายซึ่งมียอดคงเหลือ ณ
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2542 เป็นจำนวนรวมประมาณ 26.74 ล้านบาท โดยลูกหนี้และผู้ค้ำประกันตกลงชำระเป็นเงินสด
จำนวน 1.99 ล้านบาท และชำระโดยที่ดินรอการพัฒนาของผู้ค้ำประกันจำนวน 20.07 ล้านบาท ภายใน 15 วัน นับจาก
วันที่สถาบันการเงินแจ้งให้บริษัททราบเป็นลายลักษณ์อักษรว่าการปรับปรุงโครงสร้างหนี้นี้ได้รับความเห็นชอบจาก
ธนาคารแห่งประเทศไทย
หมายเหตุ 11 - เจ้าหนี้ค่าก่อสร้าง
บริษัทใหญ่
เจ้าหนี้ค่าก่อสร้าง ณ วันที่ 31 มีนาคม 2542 และ 2541 รวมเจ้าหนี้ที่ได้ยื่นฟ้องบริษัทเรื่องการชำระหนี้ค่าก่อสร้างแต่
ต่อมาได้ถอนฟ้องบริษัทแล้ว ซึ่งเดิมเจ้าหนี้รายดังกล่าวได้ส่งใบแจ้งการเรียกเก็บเงินล่าสุดเป็นจำนวนเงินประมาณ 47
ล้านบาท แต่บริษัทบันทึกบัญชีไว้เป็นจำนวนเงินประมาณ 21 ล้านบาท เนื่องจากผลการประเมินมูลค่างานต่ำกว่า
จำนวนเงินที่เจ้าหนี้รายดังกล่าวเรียกเก็บ
บริษัทย่อย
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2542 บริษัทย่อยแห่งหนึ่งได้ทำบันทึกข้อตกลงกับเจ้าหนี้ค่าก่อสร้างจำนวน 2 รายเกี่ยวกับเรื่อง
การชำระหนี้ค่าก่อสร้างสุทธิจำนวน 4.74 ล้านบาท โดยผลสรุปของสัญญาได้นำบัญชีเจ้าหนี้การค้าค่าก่อสร้าง เงิน
ประกันการก่อสร้างและเงินล่วงหน้าค่าก่อสร้าง มาหักกลบลบหนี้เป็นผลให้บริษัทไม่ต้องชำระเงินเพิ่ม
หมายเหตุ 12 - ทุนเรือนหุ้น
บริษัทใหญ่
ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2541 มีมติให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 645,500,000
บาท เป็น 945,500,000 บาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 30 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 10 บาท รวม 300 ล้านบาท เพื่อ
ทำการเสนอขายทั้งหมดในคราวเดียวหรือหลายคราวต่อผู้ลงทุนประเภทสถาบันจำนวน 17 ประเภท ตามประกาศคณะ
กรรมการ ก.ล.ต.โดยในส่วนของราคาขายต่อหุ้น วัน เวลา จองซื้อ และชำระเงินค่าหุ้น ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะ
กรรมการ ต่อมาเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2541 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวนรวม
29,280,450 บาท โดยแบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 2,928,045 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาทให้แก่ธนาคารพาณิชย์ในประเทศ
แห่งหนึ่ง เพื่อนำเงินมาใช้ในการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้สินของบริษัท บริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วเมื่อ
วันที่ 12 มิถุนายน 2541
ที่ประชุมคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2541 มีมติให้บริษัทเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวนรวม 4 ล้านบาท โดย
แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 400,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท ให้แก่บริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่ง เพื่อนำเงินมาใช้ในการ
ปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัท บริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2541
ที่ประชุมคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2541 มีมติให้บริษัทเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวนรวม 5 ล้านบาท โดย
แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท ให้แก่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง และเสนอขายหุ้น
เพิ่มทุน จำนวนรวม 1,222,438 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท ให้แก่บริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่ง เพื่อนำเงินมาใช้ในการ
ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัท บริษัทได้จดทะเบียน เพิ่มทุนชำระแล้ว เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2541 ต่อมาเมื่อ
วันที่ 28 สิงหาคม 2541 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 137,023 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10
บาท ให้แก่บริษัทแห่งหนึ่ง เพื่อนำเงินมาใช้ในการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ บริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้ว
เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2541
ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2541 มีมติให้บริษัทลดทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม
945,500,000 บาท เป็น 697,375,060 บาท โดยวิธีตัดหุ้นจดทะเบียนที่บริษัทยังมิได้นำออกจำหน่าย จำนวน
24,812,494 หุ้น และมีมติให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 697,375,060 บาท เป็น 3,312,991,260 บาท โดยการ
ออกหุ้นใหม่เป็นหุ้นสามัญ จำนวน 261,561,620 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท รวม 2,615,616,200 บาท โดยจัดสรรหุ้น
เพิ่มทุนที่ออกใหม่ดังนี้
1. จำนวน 258,074,745 หุ้น เพื่อทำการเสนอขายทั้งหมดหรือแบ่งเป็นส่วน ๆ เพื่อเสนอขายเป็นคราว ๆ ให้แก่ผู้ลงทุน
โดยเฉพาะเจาะจงซึ่งมีจำนวนไม่เกิน 35 ราย ภายในรอบระยะเวลา 12 เดือน และ / หรือเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุน
ประเภทสถาบันจำนวน 17 ประเภท ตามประกาศ ก.ล.ต. ในกรณีที่หุ้นเหลือจากการเสนอขายดังกล่าวให้เสนอขาย
ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นและในกรณีที่ยังคงมีเศษของหุ้นที่เหลือจากการเสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมตาม
สัดส่วนอีกให้เสนอขายให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทโดยในส่วนของวัน เวลา จองซื้อและชำระเงินค่าหุ้น
ให้เป็นไปตามดุลยพินิจของคณะกรรมการ
2. ส่วนที่เหลือจำนวน 3,486,875 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิที่จะซื้อหุ้นตามโครงการออกและเสนอขายใบสำคัญ
แสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นตามโครงการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่กรรมการ
และพนักงานของบริษัทในวงจำกัด ซึ่งบริษัทได้จดทะเบียนลดทุนและเพิ่มทุนแล้ว เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2541
นอกจากนี้มีมติให้บริษัทเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนที่ออกใหม่ในราคาต่ำกว่ามูลค่าหุ้นที่จดทะเบียนไว้ คิดเป็นราคาเสนอขาย
หุ้นเพิ่มทุนที่ออกใหม่เท่ากับมูลค่าหุ้นละ 5 บาท
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2542 มีมติจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 250,000 หุ้น ในราคา
หุ้นละ 5 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,250,000 บาท ให้แก่บริษัทหลักทรัพย์ในประเทศแห่งหนึ่ง บริษัทได้จดทะเบียนเพิ่ม
ทุนที่ชำระแล้วเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2542
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2542 มีมติเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 30 ล้านบาทโดยแบ่ง
เป็นหุ้นสามัญ 6 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 5 บาท ให้แก่นิติบุคคลต่าง ๆ ซึ่งเป็นผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง ตามประกาศ
ก.ล.ต. บริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2542
บริษัทย่อย
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2541 และวันที่ 24 ธันวาคม 2541 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้
แมเนจเม้นท์ จำกัด มีมติเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 2 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 20,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ
100 บาท รวมเป็นทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 3 ล้านบาท บริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุนที่ชำระแล้วเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2541
โดยจัดสรรให้บริษัทใหญ่ทั้งจำนวน
(ยังมีต่อ)