SET Announcements
09 April 1999
แจ้งมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 4/2542
ที่ สส/0176/2542
วันที่ 9 เมษายน 2542
เรื่อง แจ้งมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 4/2542
ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สิ่งที่ส่งมาด้วย แบบรายงานการเพิ่มทุน ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 9 เมษายน 2542
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ขอแจ้งให้ทราบมติในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 4/2542 ของบริษัทฯ
ซึ่งได้จัดให้มีขึ้นเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2452 ระหว่างเวลา 9.30 น. ถึง 10.30 น. ณ ห้องประชุม บริษัท แสนสิริ จำกัด
(มหาชน) เลขที่ 475 ถนนศรีอยุธยา แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400 ซึ่งที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้
ลงมติต่างๆ ดังต่อไปนี้
เรื่องที่ 1.รับรองรายงานการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2541 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2541
เรื่องที่ 2.รับทราบรายงานผลการดำเนินงานและรายงานประจำปีของคณะกรรมการในรอบระยะเวลาตั้งแต่
เดือนมกราคม 2541 จนถึงปัจจุบัน
เรื่องที่ 3.อนุมัติงบดุล งบกำไรขาดทุนของบริษัทประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2541
เรื่องที่ 4.อนุมัติให้งดจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทสำหรับงวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2541 ตามที่
คณะกรรมการเสนอ
เรื่องที่ 5.อนุมัติให้แต่งตั้ง นายจิตติน สีบุญเรือง , นางสาวจิตรา ศรีสาคร และ นายวันจักร์ บูรณศิริ กลับ
เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการของบริษัทต่อไปอีกวาระหนึ่ง โดยให้กำหนดค่าตอบแทนกรรมการตาม
หลักเกณฑ์เดิมที่ได้อนุมัติไว้แล้ว
เรื่องที่ 6.อนุมัติให้แต่งตั้ง นายสุพจน์ สิงห์เสน่ห์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 2826 และ/หรือ นายเทอดทอง
เทพมังกร ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 3738 และ/หรือ นายอธิพงษ์ ศุกลกานต์ ผู้สอบบัญชี
รับอนุญาตเลขที่ 3500 แห่งสำนักงาน เคพีเอ็มจี ออดิท (ประเทศไทย) เป็นผู้สอบบัญชีของบริษัท
สำหรับระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2542 ถึง 31 ธันวาคม 2542 โดยกำหนดค่าตอบแทนไว้
จำนวน 580,000 บาท (ห้าแสนแปดหมื่นบาท)
(มีต่อหน้า 2)
-2-
เรื่องที่ 7.ให้สัตยาบันรับรองการเข้าทำสัญญาจองซื้อหุ้นและสัญญาชำระหนี้ของบริษัทกับสตาร์วู้ด
ไทยแลนด์ คอร์เปอร์เรชั่น
เรื่องที่ 8.ให้สัตยาบันรับรองการเข้าทำสัญญาจองซื้อหุ้นกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เพื่อการจองซื้อหุ้นสามัญ
เพิ่มทุนจำนวน 500,000 หุ้นในบริษัท คาเธ่ย์ แอสเซท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในราคาหุ้นละ 12 บาท
และให้อนุมัติการจองซื้อหุ้นดังกล่าว
เรื่องที่ 9.อนุมัติให้ลดทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 3,312,991,260 บาท (สามพันสามร้อยสิบสองล้าน
เก้าแสนเก้าหมื่นหนึ่งพันสองร้อยหกสิบบาท) เป็น 794,743,810 บาท (เจ็ดร้อยเก้าสิบสี่ล้านเจ็ด
แสนสี่หมื่นสามพันแปดร้อยสิบบาท) โดยวิธีตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้นำออกจำหน่ายจำนวน
251,824,745 หุ้น (สองร้อยห้าสิบเอ็ดล้านแปดแสนสองหมื่นสี่พันเจ็ดร้อยสี่สิบห้าหุ้น) มูลค่าที่ตราไว้
หุ้นละ 10 บาท (สิบบาท) ทั้งนี้ ให้สำรองหุ้นสามัญจำนวน 3,486,875 หุ้น (สามล้านสี่แสนแปด
หมื่นหกพันแปดร้อยเจ็ดสิบห้าหุ้น) เพื่อรองรับการใช้สิทธิที่จะซื้อหุ้นตามโครงการออกและเสนอขาย
ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทในวงจำกัด ตาม
มติของที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2541
เรื่องที่ 10. อนุมัติให้แก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 4. ของบริษัทให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียน
เป็นดังนี้
"ข้อ 4. ทุนจดทะเบียน จำนวน 794,743,810 บาท
(เจ็ดร้อยเก้าสิบสี่ล้านเจ็ดแสนสี่หมื่นสามพันแปดร้อยสิบบาท)
แบ่งออกเป็น 79,474,381 หุ้น
(เจ็ดสิบเก้าล้านสี่แสนเจ็ดหมื่นสี่พันสามร้อยแปดสิบเอ็ดหุ้น)
มูลค่าหุ้นละ 10 บาท (สิบบาท)
โดยแยกออกเป็น
หุ้นสามัญ 79,474,381 หุ้น
(เจ็ดสิบเก้าล้านสี่แสนเจ็ดหมื่นสี่พันสามร้อยแปดสิบเอ็ดหุ้น)
หุ้นบุริมสิทธิ - หุ้น ( - )"
(มีต่อหน้า 3)
-3-
วาระที่ 11. อนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทขึ้นอีก 12,499,400,000 บาท (หนึ่งหมื่นสองพันสี่ร้อยเก้าสิบ
เก้าล้านสี่แสนบาท) จากเดิมทุนจดทะเบียนของบริษัทกำหนดไว้เป็นจำนวน 794,743,810 บาท
(เจ็ดร้อยเก้าสิบสี่ล้านเจ็ดแสนสี่หมื่นสามพันแปดร้อยสิบบาท) เป็น 13,294,143,810 บาท (หนึ่ง
หมื่นสามพันสองร้อยเก้าสิบสี่ล้านหนึ่งแสนสี่หมื่นสามพันแปดร้อยสิบบาท) โดยการออกหุ้นใหม่
ดังต่อไปนี้
(ก) หุ้นสามัญจำนวน 478,840,000 หุ้น (สี่ร้อยเจ็ดสิบแปดล้านแปดแสนสี่หมื่นหุ้น) ซึ่งจะต้อง
ออกในราคาที่ไม่ต่ำกว่ามูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท (สิบบาท)
(ข) หุ้นสามัญจำนวน 771,100,000 หุ้น (เจ็ดร้อยเจ็ดสิบเอ็ดล้านหนึ่งแสนหุ้น) ซึ่งจะต้องออก
ในราคาหุ้นละ 5 (ห้า) บาท (ราคาต่ำกว่ามูลค่าหุ้นที่จดทะเบียนไว้)
เรื่องที่ 12.อนุมัติให้แก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 4. ของบริษัทให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียน เป็นดังนี้
"ข้อ 4. ทุนจดทะเบียน จำนวน 13,294,143,810 บาท
(หนึ่งหมื่นสามพันสองร้อยเก้าสิบสี่ล้านหนึ่งแสน
สี่หมื่นสามพันแปดร้อยสิบบาท)
แบ่งออกเป็น 1,329,414,381 หุ้น
(หนึ่งพันสามร้อยยี่สิบเก้าล้านสี่แสนหนึ่งหมื่นสี่พัน
สามร้อยแปดสิบเอ็ดหุ้น)
มูลค่าหุ้นละ 10 บาท (สิบบาท)
โดยแยกออกเป็น
หุ้นสามัญ 1,329,414,381 หุ้น
(หนึ่งพันสามร้อยยี่สิบเก้าล้านสี่แสนหนึ่งหมื่นสี่พัน
สามร้อยแปดสิบเอ็ดหุ้น)
หุ้นบุริมสิทธิ - หุ้น ( - )"
เรื่องที่ 13.อนุมัติให้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่จำนวน 771,100,000 หุ้น ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าหุ้น
ที่จดทะเบียนไว้ จากเดิมหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนไว้มีมูลค่าหุ้นละ 10 บาท (สิบบาท) ให้กำหนด
อัตราส่วนลดไว้หุ้นละ 5 บาท (ห้าบาท) คิดเป็นราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนที่ออกใหม่จำนวน
771,100,000 หุ้น เท่ากับมูลค่าหุ้นละ 5 บาท (ห้าบาท)
(มีต่อหน้า 4)
-4-
เรื่องที่ 14. อนุมัติให้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนที่ออกใหม่ ซึ่งได้รับอนุมัติตามมติเรื่องที่ 11 ข้างต้น ดังต่อไปนี้
(ก) ในครั้งนี้ อนุมัติให้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 8,000,000 หุ้น (แปดล้านหุ้น) ให้แก่สตาร์วู้ด
ไทยแลนด์ คอร์เปอเรชั่น (สตาร์วู้ด) หนึ่งในผู้ลงทุนประเภทสถาบันตามที่กำหนดไว้ในประกาศ
คณะกรรมการ ก.ล.ต. เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่
ออกใหม่และการอนุญาต ในราคาหุ้นละ 5.- บาท (ห้าบาทถ้วน) กำหนดการจองซื้อหุ้นดังกล่าว
ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2542 ถึงวันที่ 20 เมษายน 2542 ในเวลา 8.00 น. - 17.00 น.ทุกวัน
โดยที่หากจำนวนหุ้นที่เสนอขายได้รับการจองซื้อครบถ้วนในวันใดก่อนวันสุดท้ายของระยะเวลา
การจองซื้อตามที่ระบุข้างต้นให้ถือวันดังกล่าวเป็นวันปิดการจองซื้อ
วัตถุประสงค์ในการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ เพื่อลดภาระหนี้สิน และใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินการ
และการบริหารงานของธุรกิจของบริษัทฯและบริษัทย่อยของบริษัทฯ ในปัจจุบันและในอนาคต
ก่อนการเสนอขายครั้งนี้ สตาร์วู้ด มิได้ถือหุ้นในบริษัทฯ ดังนั้นภายหลังการเสนอขายหุ้นดังกล่าว
สตาร์วู้ดได้จะถือหุ้นอยูในบริษัทฯ เป็นจำนวน 8,000,000 หุ้น (แปดล้านหุ้น) หรือเท่ากับร้อยละ
9.53 ของทุนชำระแล้วของบริษัทฯ
(ข) หุ้นเพิ่มทุนส่วนที่เหลือจำนวน 1,241,940,000 หุ้น (หนึ่งพันสองร้อยสี่สิบเอ็ดล้านเก้าแสนสี่
หมื่นหุ้น) แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญซึ่งจะต้องออกในราคาที่ไม่ต่ำกว่ามูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ
10 บาท (สิบบาท) จำนวน 478,840,000 หุ้น (สี่ร้อยเจ็ดสิบแปดล้านแปดแสนสี่หมื่นหุ้น)
ตามที่ระบุไว้ในข้อ (ก) ของมติเรื่องที่ 11 ข้างต้น และหุ้นสามัญซึ่งจะต้องออกในราคา 5.-
บาท (ห้าบาทถ้วน) จำนวน 763,100,000 หุ้น (เจ็ดร้อยหกสิบสามล้านหนึ่งแสนหุ้น) ตามที่
ระบุไว้ในข้อ (ข) ของมติเรื่องที่ 11 ข้างต้นให้ดำเนินการจัดสรรดังนี้
(1) อนุญาตให้ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ได้รับอนุมัติตามมติเรื่องที่ 11 ข้างต้น โดยออก
หุ้นทั้งหมดคราวเดียว หรือแบ่ง เป็นส่วนๆ เพื่อเสนอขายเป็นคราวๆ ให้แก่ผู้ลงทุน
สถาบัน 17 ประเภท และ/หรือเสนอขายให้แก่นักลงทุนเฉพาะเจาะจงใดๆ ซึ่งมี
จำนวนไม่เกิน 35 ราย ภายในรอบระยะเวลา 12 เดือน ตามข้อ 2 ของประกาศ
คณะกรรมการ ก.ล.ต. เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการขออนุญาต
เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่และการอนุญาต และ
(มีต่อหน้า 5)
- 5 -
(2) ให้คณะกรรมการเป็นผู้กำหนดรายละเอียดในการจัดสรรหุ้น รวมทั้งคุณสมบัติของผู้
จองซื้อหุ้น ข้อกำหนด เงื่อนไข วัน เวลา ขั้นตอน หรือรายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับการ
เสนอขายหุ้นดังกล่าวตามความเหมาะสม
เรื่องที่ 15. อนุมัติมอบหมายให้คณะกรรมการใช้ดุลยพินิจที่ได้รับมอบจากผู้ถือหุ้นตามมติเรื่องที่ 14 (ข) ข้างต้น
เกี่ยวกับการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ได้รับอนุมัติในเรื่องที่ 11 ข้างต้น ภายใต้เงื่อนไขต่างๆดังต่อไปนี้
(ก) ออกหุ้นสามัญจนครบ 32,400,000 หุ้น (สามสิบสองล้านสี่แสนหุ้น) ในราคาหุ้นละ 10 บาท
(สิบบาท) ให้แก่สตาร์วู้ด หรือบุคคลใดก็ตามที่สตาร์วู้ดเสนอชื่อ (บุคคลที่สตาร์วู้ดกำหนด)
ภายใต้เงื่อนไขต่างๆ ดังต่อไปนี้
(1) ออกหุ้นสามัญได้ไม่เกิน 32,400,000 (สามสิบสองล้านสี่แสน) หุ้น
(2) ออกหุ้นเป็นครั้งคราวเมื่อบริษัทหรือบริษัทย่อยแห่งหนึ่งแห่งใดของบริษัทจะต้อง
ชำระหนี้เงินต้นซึ่งบริษัทหรือบริษัทย่อยแห่งใดของบริษัทเป็นหนี้อยู่ให้แก่
สตาร์วู้ดหรือบุคคลที่สตาร์วู้ดกำหนดตามสัญญากู้ยืมเงินระหว่างบริษัทและบริษัท
ย่อยของบริษัทกับสถาบันการเงินต่างๆซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของ ปรส.
(สัญญากู้เงิน) และ
(3) ภายใต้บังคับของวรรค (1) ข้างต้น จำนวนหุ้นสามัญที่ออกต้องทำให้ค่าหุ้น
ทั้งหมด (ในราคาหุ้นละ 10 บาท (สิบบาท) ต่อหุ้น) เท่ากับจำนวนเงินต้นของหนี้ที่
บริษัทเป็นหนี้อยู่ตามสัญญากู้เงินซึ่งบริษัทจะต้องชำระคืนเป็นครั้งคราว
(ข) ออกหุ้นสามัญจำนวน 8,000,000 หุ้น (แปดล้านหุ้น) ในราคาหุ้นละ 5 บาท (ห้าบาท) ต่อหุ้น
ให้แก่สตาร์วู้ดหรือบุคคลใดก็ตามที่สตาร์วู้ดกำหนด ภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้
(1) ไม่ออกหุ้นจำนวนดังกล่าวเว้นแต่สตาร์วู้ดตกลงว่าจะจองซื้อหุ้นในวันที่หรือก่อนวัน
ที่ 30 มกราคม 2543 หลังจากได้รับคำขอเป็นหนังสือจากบริษัทในวันที่หรือก่อน
วันที่ 31 ธันวาคม 2542 และ
(มีต่อหน้า 6)
- 6 -
(ค) ออกหุ้นสามัญจนครบจำนวน 550,000,000 หุ้น (ห้าร้อยห้าสิบล้านหุ้น) ในราคาหุ้นละ 5
บาท (ห้าบาท) ให้แก่สตาร์วู้ดหรือบุคคลใดก็ตามที่สตาร์วู้ดกำหนด ภายใต้เงื่อนไขต่างๆ
ดังต่อไปนี้
(1) จะต้องออกหุ้นในวันที่หรือก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2545
(2) จะต้องไม่ออกหุ้นจนกว่าสตาร์วู้ดจะมีหนังสือแจ้งไปยังบริษัทก่อนวันที่ 15
ธันวาคม 2545 ว่าสตาร์วู้ดหรือบุคคลที่สตาร์วู้ดกำหนดประสงค์จะจองซื้อหุ้น
(3) จำนวนหุ้นทั้งหมดที่ออกจนถึงเวลาใดเวลาหนึ่งจะต้องไม่เกินจำนวนซึ่ง (ถ้า
หลักทรัพย์ใดที่สตาร์วู้ดและบุคคลที่สตาร์วู้ดกำหนดถืออยู่ถูกแปลงเป็นหุ้น) จะ
ทำให้จำนวนหุ้นทั้งหมดที่สตาร์วู้ดและบุคคลที่สตาร์วู้ดกำหนดจองซื้อไว้ตามมติ
เรื่องที่ 14 (ก) และวรรค (ก)-(ค) ข้างต้น หรือหลักทรัพย์อื่นใดที่สตาร์วู้ดและ/หรือ
บุคคลที่สตาร์วู้ดกำหนดเข้าซื้อตามสัญญาจองซื้อหุ้นที่ได้รับอนุมัติในเรื่องที่ 7 ข้าง
ต้น) ("หุ้นที่เข้าซื้อ") คิดเป็นร้อยละ 51 (ห้าสิบเอ็ด) ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ออก
แล้วของบริษัท (โดยสมมติว่ามีการแปลงหลักทรัพย์ใดๆที่แปลงเป็นหุ้นได้ซึ่งออก
โดยบริษัท) หรือคิด เป็นร้อยละ 51 (ห้าสิบเอ็ด) หักด้วยจำนวนหุ้นที่เข้าซื้อซึ่งขาย
ไปจนถึงเวลานั้นในกรณีที่สตาร์วู้ดและบุคคลที่สตาร์วู้ดกำหนดได้ขายหุ้นที่เข้าซื้อ
ไปแล้ว
(จ) การออกหุ้นให้แก่ที่สตาร์วู้ดหรือบุคคลใดก็ตามที่สตาร์วู้ดกำหนดจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อการ
ออกหุ้นนั้นไม่ละเมิดข้อจำกัดเรื่องสัดส่วนการถือหุ้นของคนต่างด้าวที่ระบุไว้ในข้อบังคับของ
บริษัทเป็นครั้งคราว
(ฉ) จำนวนหุ้นที่จะออกให้แก่สตาร์วู้ดหรือบุคคลที่สตาร์วู้ดกำหนดตามมติเรื่องที่ 14 (ก) และ
วรรค (ก)-(ค) ข้างต้นต้องไม่เกินจำนวนหุ้นสามัญจดทะเบียนในการเพิ่มทุนซึ่งได้รับอนุมัติ
ในเรื่องที่ 11 ข้างต้นแต่ยังไม่มีผู้จองซื้อไว้
(ช) คณะกรรมการมีอำนาจจัดสรรและออกหุ้นสามัญจดทะเบียนในการเพิ่มทุนซึ่งได้รับอนุมัติ
ในเรื่องที่ 11 ข้างต้นได้ตามที่ได้รับมอบหมายจากผู้ถือหุ้นตามมติเรื่องที่ 14 (ข) ข้างต้นเป็น
ครั้งคราวแต่ต้องไม่ใช่หุ้นที่ออกให้แก่สตาร์วู้ดและ/หรือบุคคลที่สตาร์วู้ดกำหนดตามมติเรื่อง
ที่ 14(ก) และวรรค (ก) - (ค) ข้างต้น
(มีต่อหน้า 7)
- 7 -
(ซ) ในกรณีที่จำนวนหุ้นทั้งหมดที่ออกในการเพิ่มทุนซึ่งได้รับอนุมัติในเรื่องที่ 11 ข้างต้นไม่พอ
เพียงสำหรับการปฏิบัติตามข้อกำหนดเรื่องการจองซื้อหุ้นโดยสตาร์วู้ดและ/หรือบุคคลที่
สตาร์วู้ดกำหนดได้ครบถ้วนตามข้อกำหนดของสัญญาจองซื้อหุ้นซึ่งได้รับอนุมัติในเรื่องที่ 7
ข้างต้น ให้คณะกรรมการเสนอต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทว่า ควรอนุมัติ (1) การเพิ่มทุนของบริษัท
โดยการออกหุ้น (หรือหลักทรัพย์อื่นที่แปลงเป็นหุ้นได้ซึ่งกำหนดโดยสตาร์วู้ดและบริษัทตาม
ข้อกำหนดของสัญญาจองซื้อหุ้น) ในจำนวนเท่าที่จำเป็น เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าว
ให้ครบถ้วน และ (2) การแก้ไขเพิ่มเติมใดๆที่จำเป็นในหนังสือบริคณห์สนธิและข้อบังคับของ
บริษัทซึ่งจำเป็นต้องกระทำเพื่อให้การเพิ่มทุนดังกล่าวสมบูรณ์
เรื่องที่ 16. อนุมัติให้แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ ข้อ 9, ข้อ 10, ข้อ 14, ข้อ 23, ข้อ 24 ข้อ 26 และให้เพิ่มเติม
ข้อบังคับ ข้อ 26/1 ของบริษัท เป็นดังนี้
"ข้อ 9. หุ้นของบริษัทสามารถโอนได้โดยเสรี เว้นแต่การโอนหุ้นนั้นเป็นเหตุให้มีคนต่างด้าวถือหุ้น
อยู่ในบริษัทเกินกว่าร้อยละ 39 (สามสิบเก้า) ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท
คนต่างด้าวอาจเข้าถือหุ้นของบริษัทได้ โดยวิธีการอื่นนอกเหนือจากการโอนหุ้นในกรณี
ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
(1) การจองซื้อหุ้นที่ออกใหม่ตามสิทธิของผู้ถือหุ้นเดิม
(2) การจองซื้อหุ้นที่ออกใหม่เพื่อเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป หรือโดยประการอื่น
อันอาจทำได้ตามกฎหมาย
(3) การรับปันผลเป็นหุ้น
(4) การแปลงสภาพหุ้นกู้แปลงสภาพ หรือการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้น
(5) การที่ผู้ถือหุ้นซึ่งเดิมเป็นบุคคลสัญชาติไทยแต่ได้แปลงสัญชาติเป็นต่างด้าว หรือต้อง
ถือสัญชาติต่างด้าวโดยผลของกฎหมาย
แต่ทั้งนี้การเข้าถือหุ้นดังกล่าวของคนต่างด้าวจะต้องไม่เป็นเหตุให้มีคนต่างด้าวถือหุ้นอยู่
ในบริษัทเกินกว่าร้อยละ 39 (สามสิบเก้า) ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท
(มีต่อหน้า 8)
- 8 -
ข้อ 10. การโอนหุ้นรายใดหรือการเข้าถือหุ้นรายใดที่ขัดหรือแย้งกับที่กำหนดไว้ในข้อ 9 แห่ง
ข้อบังคับนี้ บริษัทอาจปฏิเสธไม่รับลงทะเบียนการโอนหุ้นหรือการเข้าถือหุ้นรายดังกล่าว
และผู้รับโอนหุ้นหรือผู้เข้าถือหุ้นของบริษัทรายดังกล่าวต้องจำหน่ายหุ้นของตนทั้งหมดหรือ
บางส่วนโดยทันที เพื่อให้มีคนต่างด้าวถือหุ้นในบริษัทไม่เกินกว่าร้อยละ 39 (สามสิบเก้า)
ของหุ้นที่ออกจำหน่ายทั้งหมดของบริษัท และให้คณะกรรมการบริษัทมีอำนาจดำเนินการ
ต่างๆ ตามที่จำเป็นเพื่อบังคับให้เป็นไปตามข้อบังคับนี้
ข้อ 14. คณะกรรมการของบริษัทประกอบด้วยกรรมการจำนวน 11 (สิบเอ็ด) คน โดยได้รับการ
พิจารณาเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น แต่กรรมการไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของ
คณะกรรมการทั้งหมด ต้องมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร
ข้อ 23. คณะกรรมการต้องประชุมอย่างน้อย 3 (สาม) เดือนต่อครั้ง ตามวันที่ที่ระบุไว้ในตารางเวลา
ซึ่งจะได้กำหนดไว้ล่วงหน้าในแต่ละปีหรือในเวลาอื่นใดที่จำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย
ที่เกี่ยวข้องหรือเพื่อดูแลกิจการหรือธุรกิจของบริษัท ณ ท้องที่อันเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่
ของบริษัทหรือจังหวัดใกล้เคียงหรือท้องที่อื่นตามที่ประธานกรรมการเป็นผู้กำหนด
ข้อ 24. ประธานกรรมการเป็นผู้เรียกประชุมคณะกรรมการ ถ้ากรรมการตั้งแต่สองคนขึ้นไปร้องขอ
ให้เรียกประชุมคณะกรรมการให้ประธานกำหนดวันประชุมภายใน 14 (สิบสี่) วันนับตั้งแต่
วันที่ได้รับการร้องขอ ในการเรียกประชุมคณะกรรมการให้ประธานกรรมการหรือผู้ซึ่งได้รับ
มอบหมายจากประธานกรรมการส่งหนังสือนัดประชุมไปยังกรรมการไม่น้อยกว่า 14 (สิบสี่)
วันก่อนวันประชุม เว้นแต่ในกรณีจำเป็นรีบด่วนเพื่อรักษาสิทธิหรือประโยชน์ของบริษัท
จะแจ้งการนัดประชุมโดยวิธีอื่นและกำหนดวันประชุมให้เร็วกว่านั้นก็ได้
หนังสือนัดประชุมดังกล่าวจะต้องระบุวัน เวลา และสถานที่ที่ประชุมรวมทั้งวาระการ
ประชุมและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการประชุมนั้น
(มีต่อหน้า 9)
- 9 -
ข้อ 26. คณะกรรมการมีอำนาจและหน้าที่จัดการบริษัทให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ข้อบังคับ และ
มติของที่ประชุมผู้ถือหุ้น โดยกำหนดให้กรรมการสองคนลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับ
ตราสำคัญของบริษัทจึงมีผลผูกพันบริษัทได้
ภายใต้บังคับของความในวรรคก่อน คณะกรรมการอาจกำหนดชื่อกรรมการผู้มีอำนาจ
ลงนามผูกพันบริษัทพร้อมประทับตราสำคัญของบริษัท
คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่บริหารโดยให้มีอำนาจหน้าที่ควบคุมดูแล
กิจการรายวันของบริษัท หรือกิจการอื่นใด ตามที่คณะกรรมการของบริษัทมอบหมายก็ได้
และให้ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารเป็นผู้ที่มาจากการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการของ
บริษัท
เจ้าหน้าที่บริหารมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนและบำเหน็จตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท
กำหนด แต่ทั้งนี้ไม่กระทบกระเทือนสิทธิของเจ้าหน้าที่บริหารผู้นั้น ในอันที่จะได้รับค่า
ตอบแทนและผลประโยชน์อย่างอื่นในฐานะกรรมการของบริษัท ตามที่ระบุในข้อ 29 แห่ง
ข้อบังคับนี้ และในฐานะพนักงานหรือลูกจ้างของบริษัท
ให้คณะเจ้าหน้าที่บริหารจัดให้มีหรือเรียกประชุมอย่างน้อยหนึ่ง (1) ครั้งต่อเดือน โดยให้
ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายส่งหนังสือนัดประชุมไปยัง
เจ้าหน้าที่ทุกคนไม่น้อยกว่า 14 (สิบสี่) วันก่อนวันประชุม โดยหนังสือนัดประชุมดังกล่าว
จะต้องระบุน เวลา และสถานที่ที่ประชุมรวมทั้งวาระการประชุม และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
สำหรับการประชุมนั้น
การประชุมคณะเจ้าหน้าที่บริหารดังกล่าวอาจกระทำโดยผ่านวิธีการประชุมทางโทรศัพท์
หรือส่งหนังสือเวียนไปยังเจ้าหน้าที่ซึ่งได้ลงนามในมติที่ประชุมก็ได้ตามความจำเป็นและ
เหมาะสม ในการดำเนินการประชุมคณะเจ้าหน้าที่บริหารให้ดำเนินการเป็นภาษาอังกฤษ
ในกรณีที่มีเจ้าหน้าที่บริหารผู้ซึ่งไม่สามารถพูดภาษาไทยได้เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ให้จัด
ระเบียบวาระการประชุมและข้อมูลที่เกี่ยวข้องเป็นภาษาอังกฤษด้วย
ข้อ 26/1 ในเวลาหนึ่งเวลาใดตามที่เห็นสมควร คณะกรรมการอาจแต่งตั้งเจ้าหน้าที่หรือคณะทำงาน
อื่นใดนอกเหนือจากการแต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่บริหาร เพื่อช่วยเหลือคณะกรรมการในการ
บริหารงานด้วยก็ได้"
(มีต่อหน้า 10)
- 10 -
เรื่องที่ 17. อนุมัติให้แต่งตั้งกรรมการของบริษัทซึ่งเสนอชื่อโดยนายอภิชาติ จูตระกูล และนายเศรษฐา ทวีสิน
เพิ่มเติมอีก 2 คน ได้แก่ นายพรสนอง ตู้จินดา และ นายธนพล ศิริธนชัย รวมเป็นกรรมการของ
บริษัททั้งหมด 11 คน
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายอภิชาติ จูตระกูล)
ประธานอำนวยการ
C:\Agm99\agm4_t.doc