02 March 1999

งบการเงินและงบการเงินรวมประจำปี

บริษัทใหญ่ ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2541 มีมติให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 645,500,000 บาท เป็น 945,500,000 บาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 30 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 10 บาท รวม 300 ล้านบาท เพื่อ ทำการเสนอขายทั้งหมดในคราวเดียวหรือหลายคราวต่อผู้ลงทุนประเภทสถาบันจำนวน 17 ประเภท ตามประกาศคณะ กรรมการ ก.ล.ต.โดยในส่วนของราคาขายต่อหุ้น วัน เวลา จองซื้อ และชำระเงินค่าหุ้น ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะ กรรมการ ต่อมาเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2541 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวนรวม 29,280,450 บาท โดยแบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 2,928,045 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาทให้แก่ธนาคารพาณิชย์ในประเทศ แห่งหนึ่ง เพื่อนำเงินมาใช้ในการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้สินของบริษัท บริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วเมื่อ วันที่ 12 มิถุนายน 2541 ที่ประชุมคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2541 มีมติให้บริษัทเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวนรวม 4 ล้านบาท โดยแบ่ง เป็นหุ้นสามัญจำนวน 400,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท ให้แก่บริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่ง เพื่อนำเงินมาใช้ในการปรับ โครงสร้างหนี้ของบริษัท บริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2541 ที่ประชุมคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2541 มีมติให้บริษัทเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวนรวม 5 ล้านบาท โดย แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท ให้แก่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง และเสนอขายหุ้น เพิ่มทุน จำนวนรวม 1,222,438 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท ให้แก่บริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่ง เพื่อนำเงินมาใช้ในการ ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัท บริษัทได้จดทะเบียน เพิ่มทุนชำระแล้ว เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2541 ต่อมาเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2541 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 137,023 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท ให้แก่บริษัทแห่งหนึ่ง เพื่อนำเงินมาใช้ในการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ บริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้ว เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2541 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2541 มีมติให้บริษัทลดทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 945,500,000 บาท เป็น 697,375,060 บาท โดยวิธีตัดหุ้นจดทะเบียนที่บริษัทยังมิได้นำออกจำหน่าย จำนวน 24,812,494 หุ้น และมีมติให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 697,375,060 บาท เป็น 3,312,991,260 บาท โดยการ ออกหุ้นใหม่เป็นหุ้นสามัญ จำนวน 261,561,620 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท รวม 2,615,616,200 บาท โดยจัดสรรหุ้น เพิ่มทุนที่ออกใหม่ดังนี้ 1. จำนวน 258,074,745 หุ้น เพื่อทำการเสนอขายทั้งหมดหรือแบ่งเป็นส่วน ๆ เพื่อเสนอขายเป็นคราว ๆ ให้แก่ผู้ลงทุน โดยเฉพาะเจาะจงซึ่งมีจำนวนไม่เกิน 35 ราย ภายในรอบระยะเวลา 12 เดือน และ / หรือเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุน ประเภทสถาบันจำนวน 17 ประเภท ตามประกาศ ก.ล.ต. ในกรณีที่หุ้นเหลือจากการเสนอขายดังกล่าวให้เสนอขาย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นและในกรณีที่ยังคงมีเศษของหุ้นที่เหลือจากการเสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมตาม สัดส่วนอีกให้เสนอขายให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทโดยในส่วนของวัน เวลา จองซื้อและชำระเงินค่าหุ้น ให้เป็นไปตามดุลยพินิจของคณะกรรมการ 2. ส่วนที่เหลือจำนวน 3,486,875 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิที่จะซื้อหุ้นตามโครงการออกและเสนอขายใบสำคัญ แสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นตามโครงการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่กรรมการ และพนักงานของบริษัทในวงจำกัด ซึ่งบริษัทได้จดทะเบียนลดทุนและเพิ่มทุนแล้ว เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2541 นอกจากนี้มีมติให้บริษัทเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนที่ออกใหม่ในราคาต่ำกว่ามูลค่าหุ้นที่จดทะเบียนไว้ คิดเป็นราคาเสนอขาย หุ้นเพิ่มทุนที่ออกใหม่เท่ากับมูลค่าหุ้นละ 5 บาท บริษัทย่อย เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2541 และวันที่ 24 ธันวาคม 2541 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด มีมติเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 2 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 20,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท รวมเป็นทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 3 ล้านบาท บริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุนที่ชำระแล้วเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2541 โดยจัดสรรให้บริษัทใหญ่ทั้งจำนวน หมายเหตุ 17 - สินทรัพย์ที่ใช้เป็นหลักประกัน 1. ที่ดินรวมทั้งสิ่งปลูกสร้างของโครงการและที่ดินรอการพัฒนาของบริษัทใหญ่ได้จดจำนองเป็นหลักประกันเงินกู้จาก บริษัทการเงินและธนาคาร 2. ที่ดินรวมทั้งสิ่งปลูกสร้าง,สิทธิการเช่าของโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และที่ดินรอการพัฒนาบางส่วนของ บริษัทย่อยจดจำนองเป็นประกันเงินกู้ยืมจากบริษัทการเงินและธนาคาร 3. ที่ดินรอการพัฒนาของบริษัทย่อยบางส่วนได้จดจำนองกับบริษัทการเงินและธนาคาร เพื่อใช้เป็นหลักประกันเงิน กู้ยืมของบริษัทใหญ่และกิจการที่เกี่ยวข้องกัน 4. เงินลงทุนในหลักทรัพย์บางส่วนของบริษัทใหญ่ได้จำนำเป็นหลักประกันเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 5. ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2541 เงินฝากประจำส่วนหนึ่งได้นำไปเป็นเงินประกันหนังสือค้ำประกันที่ออกโดย ธนาคาร หมายเหตุ 18 - ขาดทุนจากการโอนทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้ บริษัทใหญ่ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2541 บริษัทได้ทำบันทึกข้อตกลงกับธนาคารพาณิชย์ในประเทศแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่อง การชำระ หนี้เงินกู้ยืมจาก ธนาคาร โดยธนาคารตกลงโอนสินเชื่อและหลักประกันตามสัญญาให้สินเชื่อเฉพาะใน ส่วนของเงินต้น จำนวนเงิน 187 ล้านบาทพร้อมทั้งสิทธิจำนองที่ดินของโครงการศาลาแดง 748 ให้แก่บริษัทแห่ง หนึ่ง ซึ่งเป็นบริษัท บริหารสินเชื่อโครงการอสังหาริมทรัพย์ตามแนวทางที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้วางไว้ และ ได้รับโอนที่ดินโครงการที่ใช้ เป็นหลักประกันซึ่งมีราคาทุนของโครงการตามบัญชีประมาณ 349 ล้านบาทเพื่อ ชำระหนี้เงินต้นจำนวนดังกล่าว ทำให้ บริษัทเกิดผลขาดทุนจากการโอนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อชำระหนี้จำนวน 162.32 ล้านบาท ในปี 2541 บริษัทได้โอนกรรมสิทธิ์ในห้องชุดโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รถยนต์และเฟอร์นิเจอร์บางส่วนจำนวน 690.64 ล้านบาท เพื่อชำระหนี้ของบริษัทจำนวน 446.12 ล้านบาท ทำให้เกิดผลขาดทุนจำนวน 244.52 ล้านบาท บริษัทย่อย ในปี 2541 บริษัทย่อย คือ บริษัท ชนชัย จำกัด ได้โอนกรรมสิทธิ์ในห้องชุดและที่ดินรอการพัฒนาบางส่วน รวมทั้งสิ้น จำนวน 190.96 ล้านบาท เพื่อชำระหนี้ของบริษัทและของกิจการที่เกี่ยวข้องกันในฐานะ ผู้ค้ำประกันจำนวนรวม 94.93 ล้านบาท ทำให้เกิดผลขาดทุนจำนวนทั้งสิ้น 96.03 ล้านบาท หมายเหตุ 19 - การผิดนัดชำระหนี้ บริษัทใหญ่และบริษัทย่อยมีเงินเบิกเกินบัญชีธนาคาร,เงินกู้ยืมและดอกเบี้ยซึ่งยังไม่ได้ชำระตามกำหนด ณ วันที่ 31 ธันวาคม ประกอบด้วย (หน่วย : พันบาท) เงินต้น ดอกเบี้ยค้างจ่าย 2541 2540 2541 2540 บริษัทใหญ่ 1,114,974 491,177 260,983 26,758 บริษัทย่อย 505,886 110,000 131,507 7,920 รวม 1,620,860 601,177 392,490 34,678 บริษัทอยู่ในระหว่างการเจรจาต่ออายุเงินกู้ ปรับปรุงโครงสร้างหนี้และเงื่อนไขการชำระดอกเบี้ย หมายเหตุ 20 - ภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจเกิดขึ้น 1. ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2541 บริษัทมีภาระผูกพันจากสัญญาก่อสร้างโครงการเป็นจำนวน 285.19 ล้านบาท และ 128.99 ล้านบาท ในงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะของบริษัทตามลำดับ และมีภาระผูกพันที่เกิดจากการ ออกหนังสือค้ำประกันโดยธนาคารจำนวน 7.82 ล้านบาท และ 1.97 ล้านบาทในงบการเงินรวมและงบการเงิน เฉพาะของบริษัท ตามลำดับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2540 บริษัทมีภาระผูกพันจากสัญญาก่อสร้างโครงการเป็นจำนวน 834.28 ล้านบาท และ 212.85 ล้านบาท ในงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะของบริษัทตามลำดับ และมีภาระผูกพันที่เกิดจากการ ออกหนังสือค้ำประกันโดยธนาคารจำนวน 8.89 ล้านบาท และ 2.55 ล้านบาท ตามลำดับ ในงบการเงินรวม และงบการเงินเฉพาะของบริษัทตามลำดับ 2. ในปี 2541 บริษัทมีหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นรวม 3 ราย จากการที่บริษัทถูกลูกหนี้โครงการฟ้องร้องเพื่อขอคืนเงินต้น พร้อมดอกเบี้ยเป็นจำนวนเงินประมาณ 2.47 ล้านบาท จากการที่บริษัทกระทำผิดสัญญาจะซื้อจะขาย ขณะนี้อยู่ ในระหว่างการพิจารณาของศาล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2541 บริษัทจึงยังมิได้บันทึกหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นดังกล่าวใน งบการเงิน ในปี 2540 บริษัทมีหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นจากการที่บริษัทถูกลูกหนี้รายหนึ่งฟ้องร้อง เพื่อขอคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย เป็นจำนวนเงินประมาณ 1.36 ล้านบาท จากการที่บริษัทก่อสร้างโครงการล่าช้ากว่ากำหนดในสัญญา ขณะนี้อยู่ ในระหว่างการพิจารณาของศาล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2540 บริษัทจึงยังมิได้บันทึกหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นดังกล่าวใน งบการเงิน 3. บริษัทได้ทำสัญญาเช่าพื้นที่อาคารกับบริษัทที่เกี่ยวข้องแห่งหนึ่ง เพื่อเป็นสำนักงานและเพื่อให้เช่า โดยสัญญามี กำหนดระยะเวลา 30 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2537 ถึง วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 โดยวันที่ทำสัญญา บริษัทได้ชำระค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่าครั้งเดียวเป็นจำนวนเงินประมาณ 548.57 ล้านบาท เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่า แล้ว บริษัทต้องส่งมอบสถานที่เช่าคืนให้แก่ผู้ให้เช่า โดยบริษัทจะเรียกร้องสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งจากผู้ให้เช่าไม่ได้ (ดูหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 12) 4. บริษัทย่อยแห่งหนึ่งได้ทำสัญญาเช่าที่ดินกับสำนักพระราชวัง เพื่อใช้ในการปลูกสร้างอาคารชุดเพื่อให้เช่า โครง การบ้านแสนสิริ โดยสัญญามีกำหนดระยะเวลา 30 ปี นับตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2536 โดยวันที่ทำสัญญา บริษัท ได้ชำระค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่าครั้งเดียวเป็นจำนวนเงินประมาณ 117.70 ล้านบาท หมายเหตุ 21 - การเปิดเผยข้อมูลจำแนกตามส่วนงาน บริษัทใหญ่และบริษัทย่อยประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ในประเทศเพียงอย่างเดียว จึงไม่มีข้อมูลจำแนกตาม ประเภทธุรกิจหรือพื้นที่ภูมิศาสตร์ หมายเหตุ 22 - การจัดประเภทรายการใหม่ รายการในงบการเงินปี 2540 บางรายการได้จัดประเภทใหม่ให้สอดคล้องกับรายการในงบการเงินปี 2541 หมายเหตุ 23 - ปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับปี ค.ศ. 2000 และการแก้ไขปรับปรุง (ไม่ได้ตรวจสอบและไม่ได้เป็นส่วน หนึ่งของรายงานการสอบบัญชี) ปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับปี ค.ศ. 2000 เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ระบบตัวเลขสองหลักเพื่อระบุปีแทนที่จะ เป็นตัวเลขสี่หลัก โดยระบบคอมพิวเตอร์อาจอ่านปี ค.ศ. 2000 เป็นปีอื่น ๆ ทั้งนี้ระบบที่ใช้ดังกล่าวอาจทำให้เกิดข้อผิด พลาดเมื่อมีการประมวลข้อมูลที่ใช้วันที่ก่อน ในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2543 ข้อผิดพลาดดังกล่าวอาจมีผลต่อการ ดำเนินงานและการรายงานทางการเงิน ซึ่งอาจเป็นข้อผิดพลาดที่เล็กน้อยจนถึงขั้นเกิดความล้มเหลวของระบบงานที่ สำคัญ หากมิได้ปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์อย่างเหมาะสมและทันกาล และอาจมีผลกระทบต่อความสามารถของ กิจการในการดำเนินธุรกิจตามปกติ นอกจากนี้ยังไม่อาจมั่นใจได้ว่ากิจการ ตลอดจนผู้ซื้อสินค้า ผู้ขายสินค้าและกิจการ อื่น ที่ดำเนินธุรกิจด้วยจะสามารถแก้ไขปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับปี ค.ศ. 2000 ได้ทั้งหมด บริษัทได้พิจารณาถึงผลกระทบของปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ (โปรแกรมและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์) เพื่อแก้ไขปัญหาปี ค.ศ. 2000 ซึ่งได้แก้ไขแล้วเสร็จในปีปัจจุบัน รายจ่ายรวมสำหรับโครงการดังกล่าวมีจำนวนประมาณ 1.5 ล้านบาท แม้ ว่าบริษัทอาจสามารถแก้ไขปัญหาปี ค.ศ. 2000 บริษัทยังคงมีความเสี่ยงต่อการที่บริษัทอื่นที่บริษัทดำเนินธุรกิจด้วยอาจ ไม่สามารถแก้ไขปรับปรุงระบบได้ทันกาล หมายเหตุ 24 - เหตุการณ์ภายหลังวันที่ในงบการเงิน ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2542 มีมติจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 250,000 หุ้น ในราคา หุ้นละ 5 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,250,000 บาท ให้แก่บริษัทหลักทรัพย์ในประเทศแห่งหนึ่ง